ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ

การเปิดเผยความเสี่ยง

วัตถุประสงค์

เอกสารนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแจ้งให้คุณทราบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการซื้อขายสัญญาการซื้อขายส่วนต่าง (Contract for Differences หรือ CFD) และการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex, FX) ตามข้อกำหนดของตลาดและ IFSC การอ่านเอกสารการเปิดเผยความเสี่ยงนี้ คุณไม่มีข้อผูกมัดในการลงทุนกับเรา อย่างไรก็ตาม เนื้อหานี้อิงจากเนื้อหาสำหรับผู้ที่วางแผนจะซื้อขายกับ MTrading ซึ่งเป็นที่ยอมรับและเอกสารการเปิดเผยความเสี่ยงฉบับนี้อาจไม่ได้ระบุความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย CFD และ Forex แต่มุ่งเน้นเพื่อช่วยให้ลูกค้ารับทราบความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ลูกค้าแต่ละรายควรพิจารณาตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ครบถ้วนและพอใจกับข้อมูลที่มีอยู่ หากคุณไม่แน่ใจหรือไม่เข้าใจเอกสารการเปิดเผยความเสี่ยงนี้ โปรดขอคำแนะนำทางการเงินจากที่ปรึกษาอิสระ

โปรดอ่านข้อมูลด้านล่างก่อนที่จะทำการซื้อขายกับเรา

ก่อนที่จะซื้อขาย CFD และ Forex คุณควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง การใช้เลเวอเรจที่สูงในการลงทุนประเภทนี้ หมายความว่าระดับความเสี่ยงมีแนวโน้มสูงกว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ เลเวอเรจ (หรือการซื้อขายด้วยมาร์จิ้น) อาจส่งผลทั้งทางที่ดีและทางร้าย ในขณะที่อาจจะส่งผลให้เกิดผลกำไรมหาศาล ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการสูญเสียอย่างมากด้วยเช่นกัน

ผลการดำเนินงานในอดีตของการลงทุนประเภทนี้ไม่สามารถรับประกันผลตอบแทนในอนาคตได้ คุณควรพิจารณาถึงการรับผิดชอบค่าคอมมิชชั่นและภาระภาษีที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนกับเราเป็นการส่วนตัว MTrading จะไม่รับผิดชอบต่อภาษีใดๆที่คุณอาจต้องชำระจากผลกำไรใดๆที่ได้รับในขณะที่คุณเป็นเจ้าของบัญชีกับเรา

การซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงและไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคน เลเวอเรจในระดับสูงอาจส่งผลเสียต่อท่านได้เช่นกัน และความเร็วของผลกำไรหรือขาดทุนอาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น ลูกค้าควรติดตามสถานะการซื้อขายอย่างใกล้ชิด โดยถือเป็นความรับผิดชอบของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียวในการติดตามสถานะการซื้อขายที่เปิดอยู่ ทั้งนี้ ก่อนทำการซื้อขาย ท่านควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ทางการเงิน และความเสี่ยงที่ยอมรับได้อย่างรอบคอบ หากท่านไม่แน่ใจเกี่ยวกับความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอโดย MTrading โปรดขอคำแนะนำทางการเงินจากที่ปรึกษาอิสระ ผลตอบแทนที่สูงย่อมสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่สูงตามไปด้วย การเก็งกำไรหรือการซื้อขายในตลาดประเภทใดก็ตามที่สามารถสร้างผลกำไรสูงเป็นพิเศษย่อมมีความเสี่ยงสูง ควรวางเฉพาะเงินทุนส่วนเกินเท่านั้นที่ควรนำมาใช้ในการลงทุน และผู้ใดก็ตามที่ไม่มีเงินทุนดังกล่าวไม่ควรเข้าร่วมการซื้อขาย CFD หรือ Forex

การเทรดไม่เหมาะสำหรับทุกคน การซื้อขาย CFD และ Forex มีความเสี่ยงสูง และอาจทำให้สูญเสียเงินทุนทั้งหมด

ตราสารแต่ละประเภทมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน และในการตัดสินใจว่าจะซื้อขายตราสารดังกล่าวหรือไม่ ท่านควรคำนึงถึงประเด็นต่อไปนี้:

1. CFD โดยทั่วไป

CFD หรือ สัญญาการซื้อขายส่วนต่าง เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ซับซ้อน ซึ่งโดยทั่วไปจะปิดเฉพาะเมื่อลูกค้าเลือกที่จะปิดสถานะที่เปิดอยู่เท่านั้น ดังนั้น CFD จึงไม่มีวันครบกำหนด (maturity date) ที่ระบุไว้

CFD สามารถเปรียบเทียบได้กับสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งสามารถทำสัญญาได้กับดัชนี โลหะมีค่า น้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือตราสารทางการเงินอื่นๆ อย่างไรก็ตาม สัญญา CFD ไม่เหมือนกับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอื่นๆ ตรงที่สัญญาเหล่านี้สามารถชำระด้วยเงินสดเท่านั้น การลงทุนใน CFD มีความเสี่ยงคล้ายกับการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และท่านควรศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงเหล่านั้นก่อนตัดสินใจลงทุน ธุรกรรม CFD อาจมีภาระผูกพันตามเงื่อนไข (Contingent liability) และท่านควรตระหนักถึงผลกระทบตามที่อธิบายเพิ่มเติมในวรรค 3, 5, 17 และ 18 ของเอกสารด้านล่าง การซื้อขาย CFD ทั้งหมดเป็นสัญญาซื้อขายส่วนต่าง ซึ่งหมายความว่าลูกค้าไม่มีสิทธิ์ในตราสารอ้างอิงหรือสิทธิ์ที่แนบมา เว้นแต่จะระบุไว้โดยเฉพาะใน CFD ซึ่งรวมถึงไม่มีสิทธิในหุ้นอ้างอิงหรือสิทธิออกเสียงใดๆ

2. การลงทุนใน Forex ดัชนี โลหะมีค่า น้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์แบบโรลโอเวอร์

การลงทุนใน Forex ดัชนี โลหะมีค่า น้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์แบบโรลโอเวอร์มีความเสี่ยงเช่นเดียวกับการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และคุณควรทำความเข้าใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องนี้ การทำธุรกรรมด้วยมาร์จิ้นใน Forex ดัชนี โลหะมีค่า น้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์แบบโรลโอเวอร์อาจมีภาระผูกพันตามเงื่อนไข และคุณควรตระหนักถึงผลกระทบของเงื่อนไขดังกล่าวตามที่กำหนดไว้ในย่อหน้าที่ 3 และ 4 ด้านล่าง

นอกเหนือจากการเปิดเผยมาตรฐานอุตสาหกรรมที่มีอยู่ในการเปิดเผยความเสี่ยงนี้ คุณควรทราบว่าการซื้อขาย Forex, ดัชนี, โลหะมีค่า, น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีหลักประกันเป็นรูปแบบการลงทุนที่เสี่ยงที่สุดในตลาดการเงินและเหมาะสำหรับบุคคลและสถาบันการเงินซึ่งมีฐานะทางการเงินที่ดีและมีความเข้าใจในการลงทุน(sophisticated) เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด การเก็งกำไรในตลาดโลหะมีค่า ดัชนี น้ำมัน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) จึงควรดำเนินการด้วยเงินทุนที่รับความเสี่ยงได้เท่านั้น ซึ่งหากสูญเสียไปจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อฐานะทางการเงินของท่านหรือสถาบันทางการเงินของท่าน

3. คำสั่งหรือกลยุทธ์ในการลดความเสี่ยง

การวางคำสั่งบางอย่าง (เช่น คำสั่ง "stop loss" หรือ "stop limits") ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดการขาดทุนไม่ให้เกินกว่าจำนวนที่กำหนดอาจไม่ได้ผลเสมอไป เนื่องจากสภาวะตลาดหรือข้อจำกัดทางเทคโนโลยีอาจทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวได้ หากลูกค้าตัดสินใจซื้อขายโดยใช้คำสั่งหรือกลยุทธ์ดังกล่าว ลูกค้าต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนี้

4. ธุรกรรมที่มีภาระผูกพันตามเงื่อนไข

CFD และ Forex เป็นธุรกรรมมาร์จิ้นที่กำหนดให้คุณต้องชำระเงินเป็นชุดตามมูลค่าสัญญา แทนที่จะชำระมูลค่าสัญญาทั้งหมดทันที คุณอาจสูญเสียมาร์จิ้นที่คุณฝากไว้กับ MTrading ทั้งหมดไม่ว่าจะเปิดหรือปิดสถานะการซื้อขาย MTrading จะทำการปรับมูลค่าสถานะที่คุณเปิดอยู่อย่างต่อเนื่องทุกวันทำการ และกำไรหรือขาดทุนใดๆจะแสดงในบัญชีของคุณทันที และการขาดทุนอาจส่งผลให้คุณถูกเรียกให้จ่ายเงินหลักประกัน(มาร์จิ้น)เพิ่มเติมจำนวนมากเพื่อรักษาสถานะที่เปิดอยู่ของคุณโดยอาจแจ้งให้ทราบล่วงหน้าในระยะเวลาอันสั้น

MTrading มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงอัตราของหลักประกันเริ่มต้นและ/หรือข้อกำหนดการซื้อขายตามมูลค่าอ้างอิงตามสัญญาได้ตลอดเวลา ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อหลักประกันที่คุณจำเป็นต้องรักษาไว้ หากคุณไม่รักษาเงินประกันในบัญชีให้เพียงพออยู่เสมอ และ/หรือไม่สามารถวางเงินทุนเพิ่มเติมภายในระยะเวลาที่กำหนด สถานะที่เปิดอยู่ของคุณ (open positions) อาจปิดและส่งผลให้เกิดการขาดทุน และคุณจะต้องรับผิดชอบต่อการขาดดุลที่เกิดขึ้น

5. เลเวอเรจ

แม้ว่าตราสารอนุพันธ์สามารถใช้ในการบริหารความเสี่ยงได้ แต่การลงทุนบางประเภทอาจไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ การซื้อขาย CFD และ Forex มีความเสี่ยงสูง เกียร์ (gearing) และเลเวอเรจ (leverage)ที่สามารถรับได้ในการซื้อขาย CFD และฟอเร็กซ์ หมายความว่าอนุญาตให้ท่านใช้เงินวางเงินประกันเพียงจำนวนน้อยในการเริ่มต้นเทรดกับ MTrading ได้ เงินวางประกันจำนวนน้อยนี้อาจทำให้เกิดกำไรหรือขาดทุนจำนวนมากได้ ธุรกรรมที่มีเลเวอเรจสูงอาจมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในมูลค่าหรือระดับของปัจจัยทางการตลาดที่เกี่ยวข้อง

6. ธุรกรรมทางการเงินแบบ OTC (Over The Counter)

เมื่อทำการซื้อขาย CFD คุณกำลังเก็งกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาที่คาดการณ์ไว้สำหรับสินทรัพย์อ้างอิงนั้นๆ โดยการเทรดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบนตลาดที่ได้รับการควบคุม คุณจะทำสัญญากับ MTrading โดยตรงเกี่ยวกับตราสารหรือสินทรัพย์อ้างอิงอื่นๆที่คุณต้องการซื้อขายผ่าน CFD ตำแหน่งที่เปิดทั้งหมดกับ MTrading จะต้องปิดด้วย MTrading เท่านั้น ไม่สามารถปิดกับบุคคลอื่นได้

การซื้อขายในธุรกรรมทางการเงินแบบ OTC อาจทำให้คุณมีความเสี่ยงมากกว่าการซื้อขายในตลาดที่มีการควบคุม ต่างจากตลาดหลักทรัพย์ทั่วไป คุณไม่สามารถปิดสถานะที่เปิดอยู่เองได้ และราคาและเงื่อนไขอื่นๆที่เรากำหนดภายใต้ข้อกำหนดทางกฎหมาย/ข้อบังคับ ธุรกรรมทางการเงินแบบ OTC อาจเพิ่มความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญอื่นๆ เช่น อาจไม่สามารถประเมินมูลค่าของสถานะอันเป็นผลมาจากธุรกรรมนอกตลาด หรือเพื่อกำหนดความเสี่ยงได้ นอกจากนี้ MTrading ไม่จำเป็นต้องเสนอราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย และถึงกระนั้น MTrading อาจมีปัญหาในการกำหนดราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการแลกเปลี่ยนหรือตลาดที่เกี่ยวข้องสำหรับสินทรัพย์อ้างอิงถูกปิดหรือระงับ คุณยังเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ของ MTrading อีกด้วย

7. ราคา

ราคาที่แสดงบนแพลตฟอร์ม MTrading (“แพลตฟอร์ม”) ไม่จำเป็นต้องตรงกับราคาตลาดโลกเสมอไป MTrading จะเลือกราคาปิดที่จะใช้ในการกำหนดข้อกำหนดมาร์จิ้นและในการปรับมูลค่าบัญชีของคุณตามราคาตลาดเป็นระยะๆ รวมถึงการปิดสถานะการเทรดของคุณ แม้ว่า MTrading ประมาณการว่าราคาเหล่านี้จะสัมพันธ์กับราคาที่มีอยู่ในตลาดระหว่างธนาคารหรือตลาดแลกเปลี่ยนหรือตลาดการเงินอื่นๆ (“ตลาดอ้างอิง”) ราคาที่ MTrading ใช้อาจแตกต่างจากราคาที่มีให้กับธนาคารและผู้เข้าร่วมรายอื่น ในตลาดอ้างอิง ดังนั้น MTrading จึงสามารถใช้อำนาจตามดุลยพินิจในการกำหนดข้อกำหนดมาร์จิ้นและเรียกเก็บเงินประกัน เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้บางส่วนเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์อ้างอิง ท่านจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านทราบถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์อ้างอิงนั้น ซึ่งรวมถึงความผันผวนของค่าเงิน ความผันผวนและช่องว่าง (การเปลี่ยนแปลงราคาอย่างกะทันหัน ซึ่งอาจเกิดจากหลายปัจจัย รวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ การประกาศของตลาด และช่วงเวลาที่ไม่มีการซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิง)

การหยุดแบบไม่รับประกันจะไม่สามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงนี้ได้ เนื่องจากไม่ได้เกิดขึ้นทันทีแต่เป็นเพียงการส่งคำสั่งเพื่อปิดสถานะการซื้อขายที่ราคาที่ใกล้ที่สุดที่สามารถทำได้ในขณะนั้น

8. ความเสี่ยงช่วงสุดสัปดาห์

สถานการณ์ ความเคลื่อนไหว หรือเหตุการณ์ต่างๆ อาจเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ที่โดยทั่วไปตลาดจะปิดทำการซื้อขาย ซึ่งส่งผลให้ราคาเปิดตลาดในวันจันทร์อาจแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากราคาปิดตลาดในวันศุกร์ ท่านจะไม่สามารถใช้แพลตฟอร์มในการวางหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่งซื้อขายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือช่วงเวลาอื่นๆที่ตลาดปิดทำการ เมื่อตลาดปิดโดยทั่วไปมีความเสี่ยงสูงที่คำสั่ง Stop-Loss ซึ่งวางไว้เพื่อป้องกันสถานะการซื้อขายที่เปิดอยู่ในช่วงสุดสัปดาห์จะถูกดำเนินในราคาที่แย่กว่าราคาที่กำหนดไว้มาก ลูกค้าที่วางคำสั่ง Stop-Loss ในช่วงวันหยุด ยอมรับความเสี่ยงนี้ และจะต้องรับผิดชอบต่อการขาดดุลที่อาจเกิดขึ้น

9. การซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์

การซื้อขายสัญญา OTC ผ่านแพลตฟอร์มอาจแตกต่างจากการซื้อขายบนระบบการซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ เช่นเดียวกับการซื้อขายในตลาดทั่วไปหรือตลาดเปิด คุณจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับระบบการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงความล้มเหลวของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ และการหยุดทำงานของระบบ ที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม ระบบของคุณ และโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสาร (เช่น อินเทอร์เน็ต) ที่เชื่อมต่อแพลตฟอร์มกับคุณ

10. การซื้อขายรายวัน (Intraday Trading)

การซื้อขายรายวันแบบออนไลน์อาจทำให้คุณทำธุรกรรมได้มากมาย

11. การระงับการซื้อขาย

ภายใต้เงื่อนไขบางประการ การบังคับชำระบัญชี (liquidate a position) อาจทำได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้ สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ในช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ซึ่งราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอาจพุ่งสูงขึ้นหรือร่วงลงอย่างมากภายในเซสชั่นการซื้อขายเดียว จนส่งผลให้การซื้อขายสินทรัพย์อ้างอิงนั้นถูกจำกัดหรือระงับไป ในกรณีที่เกิดสถานการณ์ดังกล่าว ลูกค้าต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และจะต้องรับผิดชอบต่อการขาดดุลที่อาจเกิดขึ้น ลูกค้าควรทราบด้วยว่า ภายใต้บางเงื่อนไข MTrading อาจจำเป็นต้องปิดสถานะการซื้อขายของลูกค้าตามข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแลหรือตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้น MTrading จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าว

12. คอมมิชชัน

ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นการซื้อขาย คุณควรศึกษารายละเอียดข้อมูลที่เกี่ยวกับค่าคอมมิชชันและค่าธรรมเนียมอื่นๆทั้งหมดที่คุณจะต้องรับผิดชอบ ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้มีอยู่ในตารางอัตราที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของ MTrading ลูกค้าควรตระหนักถึงต้นทุนหรือหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากสถานะการซื้อขายของท่าน ซึ่งรวมถึงซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ: ค่าสวอป การดำเนินการของบริษัท เช่น การเสนอขายสิทธิซื้อหุ้น, เงินปันผล, การแบ่งหุ้น ฯลฯ

13. การล้มละลาย

การล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้า อาจส่งผลให้สถานะการซื้อขายของท่านถูกชำระบัญชีหรือปิดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน นอกจากนี้ ท่านจะโอนกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองทั้งหมดให้กับส่วนหนึ่งของเงินทั้งหมดที่คุณจะฝากเข้าใน MTrading เงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปใช้เป็นหลักประกันสำหรับหนี้สินในปัจจุบันหรือในอนาคต ภาระผูกพันที่เกิดขึ้นจริงหรือที่อาจเกิดขึ้นกับ MTrading รวมถึงข้อกำหนดด้านมาร์จิ้น MTrading จะกำหนดจำนวนเงินที่จำเป็นในการรับประกันภาระผูกพันของคุณต่อ MTrading ตามดุลพินิจแต่เพียงผู้เดียวในแต่ละวัน (โดยอิงจากตำแหน่งที่เปิดและการซื้อขายรายวันของคุณ โดยคำนึงถึงสภาวะตลาด) ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวอาจมากกว่าข้อกำหนดมาร์จิ้น คุณจะไม่มีสิทธิ์เรียกร้องความเป็นเจ้าของในจำนวนเงินนี้ ซึ่งจะไม่อยู่ภายใต้การแบ่งแยกหรือภาระผูกพันอื่นๆตามกฎเงินของลูกค้าที่มีผลบังคับใช้ในเป็นครั้งคราวภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ MTrading อาจนำไปดำเนินการในบัญชีของตนเอง ดังนั้นเงินจำนวนดังกล่าวอาจไม่สามารถเรียกคืนได้ในกรณีที่ MTrading ล้มละลายหรือการผิดนัดชำระหนี้

14. การสื่อสาร

MTrading จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดขึ้นอันเป็นผลมาจากการสื่อสารล่าช้าหรือไม่ได้รับที่ส่งถึงลูกค้าจากเราในรูปแบบใดๆ ลูกค้ายอมรับเพิ่มเติมว่าความสูญเสียใดๆที่เกิดขึ้นจากการเข้าถึงแพลตฟอร์มการซื้อขายของลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตของบุคคลที่สามจะไม่ถือเป็นความรับผิดชอบของ MTrading ยกเว้นในกรณีของความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงในนามของบริษัทหรือพนักงาน ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการรักษารายละเอียดการเข้าสู่ระบบทั้งหมดให้ปลอดภัย และ MTrading ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่ารายละเอียดของผู้ใช้งานไม่ได้รับการจดบันทึกหรือจัดเก็บไว้

15. คำแนะนำ

MTrading ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการลงทุนและเป็นเพียงสถานที่ดำเนินการเท่านั้น แม้ว่าเราอาจทำการประเมินตลาดโดยทั่วไปตามดุลยพินิจของเรา แต่การประเมินดังกล่าวไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุนรายบุคคล และไม่คำนึงถึงสถานการณ์ส่วนบุคคลของคุณ การตัดสินใจซื้อขายใดๆก็ตามจะต้องกระทำโดยลูกค้าเพียงผู้เดียว

ภายใต้ IFSC เราจำเป็นต้องประเมินความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้สำหรับบุคคลทั่วไปที่ให้ข้อมูลที่คล้ายกันกับท่าน ข้อมูลที่ท่านให้มาจะใช้ในการประเมินเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่า เราอนุญาตให้ท่านเปิดบัญชี เราแนะนำผลิตภัณฑ์นี้สำหรับท่านโดยเฉพาะ – แต่เราระบุว่าผลิตภัณฑ์นี้อาจจะเหมาะสมสำหรับคนที่อยู่ในกลุ่มลักษณะทางความมั่งคั่งและประสบการณ์เดียวกันกับท่าน ในการดำเนินการนี้ เราจะขอข้อมูลเกี่ยวกับ:ประสบการณ์การซื้อขาย สินทรัพย์ทางการเงิน และรายได้ของคุณ แม้เราไม่ได้มีหน้าที่ติดตามความถูกต้องของข้อมูลที่ให้ไว้ของท่านหรือสถานการณ์ทางการเงินของคุณยังคงเหมือนเดิม ดังนั้น เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของลูกค้าแต่เพียงผู้เดียวที่จะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่สำคัญใดๆที่อาจส่งผลต่อความเหมาะสมของผลิตภัณฑ์นี้

16. Corporate Actions: หุ้น CFD

โปรดทราบว่าการปฏิบัติที่คุณได้รับระหว่างการดำเนินการขององค์กรอาจมีผลดีน้อยกว่าการที่คุณเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่เราดำเนินการอาจจำเป็นต้องทำอย่างเร่งด่วนและดำเนินการก่อนการเปลี่ยนแปลงที่กำหนดโดยการดำเนินการของบริษัท ดังนั้นระยะเวลาในการตัดสินใจอาจน้อยลงอย่างมาก ทางเลือกที่มีอยู่อาจมากกว่า/ทำกำไรได้น้อยกว่า และอาจไม่มีตัวเลือกให้คุณปิดสถานะการซื้อขาย เนื่องจาก การกระทำของบริษัทมักประกาศแจ้งในเวลาอันสั้นมาก คุณอาจไม่มีโอกาสหรือทางเลือกในการปิดสถานะเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบดังกล่าว นอกจากนี้และการกระทำดังกล่าวอาจทำให้คุณต้องจัดหาเงินทุนเพิ่มเติม เพื่อรองรับเงินประกัน (มาร์จิ้น) ในระยะเวลาอันสั้น

17. การขายหุ้น CFD

การขายหุ้น CFD (short Position) นั้นมีความเสี่ยงเพิ่มเติมที่ไม่เหมือนกับการถือครองสัญญาซื้อ (Long Position) ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ในกรณีที่บริษัทมีการออกใบสำคัญสิทธิ คุณอาจจำเป็นต้องเข้าร่วมซื้อขายในราคาที่อาจไม่เอื้ออำนวยหรือคุณอาจต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อใบสำคัญสิทธิคืน โดย MTrading อาจตัดสินใจแทนคุณ โดยไม่ต้องขอความเห็นของคุณ ทั้งในเรื่องเงื่อนไขการซื้อคืน หรือ ระยะเวลาแจ้งความประสงค์ที่อาจสั้นกว่ากรณีการซื้อขายหุ้นอ้างอิงโดยตรง คุณอาจถูกบังคับให้ซื้อคืน อันเนื่องมาจาก Corporate Actions เงื่อนไขการให้กู้ยืมหุ้น หรือ ข้อกำหนด/การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ ขณะที่คุณถือครองสัญญาขาย Short คุณอาจต้องเผชิญกับค่าธรรมเนียมการกู้ยืมหุ้นที่เปลี่ยนแปลงไป

18. การติดตามสถานะ

เป็นความรับผิดชอบของลูกค้าในการตรวจสอบสถานะการซื้อขายที่พวกเขาเปิดอยู่เสมอ ท่านควรสามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ทุกเมื่อ แม้ว่าเราจะพยายามปิดสถานะของคุณเมื่อเงินประกัน (มาร์จิ้น) หมด แต่เราไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถทำได้เสมอ ดังนั้น คุณจะยังคงต้องรับผิดชอบต่อส่วนต่างที่เกิดขึ้น

เอกสารนี้ควรอ่านควบคู่กับเอกสารอื่นๆที่เราจัดเตรียมไว้ให้หรือเผยแพร่ให้กับลูกค้าบนเว็บไซต์ของเรา

19. เงินปันผลและการปรับเงินปันผลสำหรับสัญญา CFD

การปรับเงินปันผลใดๆจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ MTrading

'การปรับเงินปันผล' คือ การปรับที่ใช้เมื่อหุ้นผ่านวันที่ไม่ได้รับเงินปันผล (รวมถึงวันที่ไม่ได้รับเงินปันผลพิเศษ) ในตลาดหุ้นอ้างอิง

สำหรับสถานะ Long เงินปรับเงินปันผลจะถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชีของท่าน

สำหรับสถานะ Short เงินปรับเงินปันผลจะถูกหักจากบัญชีของท่าน

การจ่ายเงินปันผลส่งผลต่อตำแหน่งของดัชนีหรือหุ้นอย่างไร?

เมื่อหุ้นหรือดัชนี ผ่านวันที่ไม่ได้รับสิทธิ์เงินปันผล เราจะทำการปรับเงินสดเข้าบัญชีของคุณ เพื่อให้สถานะการถือครองของคุณไม่ได้รับผลกระทบจากราคาที่ลดลงในตลาดสำหรับหุ้นหรือดัชนีนั้น หากท่านถือสถานะ Long เราจะให้เครดิตเข้าบัญชีของท่าน หากท่านถือสถานะ Short เราจะหักเงินอกจากบัญชีของท่าน

จะเกิดอะไรขึ้นหากหุ้นหรือดัชนีผ่านวันที่ไม่ได้รับสิทธิ์เงินปันผล?

เวลาที่บริษัทผ่านวันที่่ไม่ได้รับสิทธิ์เงินปันผล (นั่นคือ พวกเขาจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น) โดยทั่วไปมูลค่าหุ้นจะลดลงเท่ากับจำนวนเงินปันผลที่จ่าย เนื่องจากดัชนีหุ้นประกอบด้วยบริษัทหลายแห่ง ดังนั้น เมื่อราคาหุ้นของบริษัทเหล่านั้นลดลง มูลค่าของดัชนีหุ้นก็จะลดลงตามไปด้วย

ทำไมเราถึงทำการปรับเปลี่ยน?

หลังจากที่หุ้นหรือดัชนีผ่านวันที่ไม่ได้รับสิทธิ์เงินปันผล ราคาหุ้นหรือดัชนีมักจะลดลง ส่งผลกระทบต่อกำไรขาดทุนสะสม (P&L) ของท่าน ถ้าคุณถือครองหุ้นแบบ Long (Long Position) คุณจะเสียโอกาสที่จะได้รับกำไรเพิ่มเติมที่เกิดจากราคาหุ้นที่ลดลง ถ้าคุณถือครองหุ้นแบบ Short (Short Position) กำไรขาดทุนสะสมของคุณจะดีกว่าที่ควรจะเป็น

เนื่องจาก การที่ราคาหุ้นลดลงหลังวันที่ไม่ได้รับสิทธิ์เงินปันผลเป็นการเคลื่อนไหวตามตลาดที่คาดการณ์ได้ ดังนั้นเราจึงต้องทำการปรับเพื่อให้กำไรขาดทุนสะสมของคุณไม่ได้รับผลกระทบ

เราคำนวณการปรับเงินปันผลอย่างไร

การปรับ = ขนาดของตำแหน่งสถานะของคุณ x จำนวนเงินปันผล

จำนวนเงินปันผล จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบริษัทหรือดัชนี

ดัชนีบางประเภทไม่มีการปรับเงินปันผล ดัชนีประเภทนี้เรียกว่า ดัชนีผลตอบแทนรวม (Total Return Index)

คำจำกัดความของ 'ดัชนีผลตอบแทนรวม'

ดัชนีผลตอบแทนรวม (Total Return Index) คือประเภทของดัชนีหุ้นที่ติดตามกำไรจากเงินทุนในช่วงเวลาหนึ่ง และถือว่าเงินปันผล หรือเงินสดที่จ่ายออกมานั้น จะถูกนำไปลงทุนในดัชนีอีกครั้ง การพิจารณาผลตอบแทนรวมของดัชนี จะช่วยแสดงภาพรวมประสิทธิภาพของดัชนีได้แม่นยำยิ่งขึ้น สมมติว่ามีการนำเงินปันผลไปลงทุนใหม่ เท่ากับว่าคุณได้คำนวณหุ้นในดัชนีที่ไม่ได้จ่ายเงินปันผล และนำกำไรของของหุ้นเหล่านั้นไปลงทุนใหม่ในบริษัทที่เกี่ยวข้องแทน