เช้าวันพฤหัสบดีนี้ คู่เงิน EURUSD ร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ห้า โดยปรับลดลงแตะจุดต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ ขณะที่นักเทรดคู่เงินยูโรกำลังจับตามองการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (NFP) ประจำเดือนกันยายน โดยเฉพาะหลังจากการรายงานข้อมูลจาก ADP ที่แข็งแกร่งและความคิดเห็นของประธาน Fed Jerome Powell ที่มีแนวโน้มสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด
นอกจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งและความคิดเห็นที่มีแนวโน้มสนับสนุนนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของ Powell ประธาน Fed แล้ว อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในยูโรโซนก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กดดันคู่เงิน EURUSD โดยการหลุดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอกซ์โพเนนเชียล (EMA) 50 วันอย่างชัดเจนจะช่วยรักษาระดับของช่วงแนวโน้มขาลง นอกจากนี้ สัญญาณ RSI (14) ที่บ่งชี้ถึงแรงเทขายที่มากเกินไปและสัญญาณขาลงจาก MACD ยังชี้ว่าราคาอาจปรับตัวลงต่อไป
ด้วยคู่เงิน EURUSD ที่หลุดลงต่ำกว่าระดับเส้น 50-EMA และเผชิญกับปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลง ทำให้มีแนวโน้มที่จะทดสอบระดับต่ำสุดในรอบเดือนก่อนหน้าที่ประมาณ 1.1000 อย่างไรก็ตาม เส้นแนวรับอายุหกเดือนจะคอยท้าทายแรงเทขายที่ประมาณ 1.0980 ประเด็นสำคัญคือ การบรรจบกันของเส้น 100-EMA และเส้นแนวรับขาขึ้นจากช่วงปลายเดือนมิถุนายนใกล้กับระดับ 1.0960 ซึ่งจะเป็นระดับสำคัญที่ต้องติดตาม หากราคาร่วงลงต่ำกว่าระดับราคานี้ อาจส่งผลให้ราคาปรับลดลงไปสู่เป้าหมายของรูปแบบ "Double Tops" ที่ประมาณ 1.0800 ต่อไป
ในอีกทางหนึ่ง เส้น 50-EMA ที่ประมาณ 1.1045 จะทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่ใกล้ที่สุดสำหรับการฟื้นตัวใดๆของคู่เงิน EURUSD หากช่วงแนวโน้มขาขึ้นสามารถทะลุผ่านระดับนี้ไปได้ คู่เงินยูโรจะเผชิญกับแนวต้านเพิ่มเติมที่ระดับราคาที่ราวๆ 1.1100 และรูปแบบ "Double Tops" ที่ประมาณ 1.1200 โดยการปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 1.1200 จะท้าทายแนวโน้มขาลงปัจจุบันและเปิดทางให้แรงเทซื้อตั้งเป้าหมายไปที่จุดสูงสุดของปี 2023 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.1275
โดยรวมแล้ว คู่เงิน EURUSD มีแนวโน้มขาลงในระยะสั้น แต่ช่วงแนวโน้มขาลงยังมีโอกาสถูกจำกัดก่อนถึงระดับทางเทคนิคที่สำคัญ ซึ่งหมายความว่าข้อมูลและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังจะมาถึงจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของตลาดต่อไป