คู่เงิน EURUSD ค่อยๆฟื้นตัวขึ้นที่ระดับต่ำสุดในรอบแปดสัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตามองการรายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนกันยายนของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่รายงานการประชุมของคณะกรรมการ FOMC ในวันก่อนหน้านั้นส่งผลกระทบต่อคู่เงินยูโร
นอกจากการปรับตัวสูงขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯหลังจากการรายงานการประชุม Fed แล้ว การยืนยันรูปแบบกราฟ "Double Tops" ที่เป็นสัญญาณขาลงของคู่เงิน EURUSD และการทะลุแนวรับขาขึ้นอายุ 15 สัปดาห์ ยังช่วยหนุนให้แนวโน้มขาลงแข็งแกร่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สัญญาณ RSI (14) ที่บ่งชี้ถึงแรงเทขายที่มากเกินไป และสัญญาณ MACD ที่อ่อนตัวลง ยังทำให้แรงเทขายระหว่างวันเผชิญกับความท้าทาย พร้อมกับภาวะ consolidation ของระดับราคาในช่วงก่อนการเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
ระดับ Fibonacci 50% จากการปรับตัวสูงขึ้นของคู่เงิน EURUSD ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.0940 จะจำกัดการปรับลดลงของระดับราคา โดยแนวรับสำคัญถัดไปจะอยู่ที่ระดับ Fibonacci retracement 61.8% ที่ราวๆ 1.0870 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "Golden Fibonacci Ratio" หากราคาทะลุลงต่ำกว่าระดับ 1.0870 อาจทำให้ราคาร่วงลงไปสู่เป้าหมายของช่วงขาลงจากรูปแบบกราฟ "Double Tops" ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.0800
สำหรับแนวโน้มขาขึ้นนั้น การฟื้นตัวขึ้นของคู่เงิน EURUSD ดูเหมือนไม่น่าจะเกิดขึ้น เว้นแต่ว่าจะทะลุระดับ 1.1010 ไปได้ โดยมีเส้นแนวรับก่อนหน้าที่ปัจจุบันกลายเป็นแนวต้านอยู่ใกล้กับระดับ 1.1000 หากแรงเทซื้อยูโรสามารถยืนเหนือระดับ 1.1010 ไปได้ ระดับ Fibonacci retracement ที่ 23.6% และรูปแบบกราฟ "Double Tops" ที่บริเวณ 1.1085 และ 1.1200 ตามลำดับ จะเป็นเป้าหมายสำคัญที่น่าจับตามองต่อไป
แม้ว่า สัญญาณ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงเทขายที่มากเกินไป และความเป็นไปได้ที่ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯอาจอ่อนตัวลง อาจเป็นอุปสรรคสำหรับช่วงแนวโน้มขาขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ช่วงแนวโน้มขาลงของคู่เงิน EURUSD ยังคงได้รับแรงหนุน โดยการยืนยันรูปแบบกราฟขาลง ประกอบกับท่าทีการสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่มีแนวโน้มมากกว่าของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อเทียบกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยังทำให้แรงเทขายยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อการปรับตัวลงต่อเนื่องของระดับราคา