EURUSD ปรับตัวขึ้นจากแนวรับระยะยาว ก่อนการประกาศดัชนี PMI จากยุโรปและสหรัฐฯ
คู่เงิน EURUSD ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน หลังจากดีดตัวจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม ขณะที่นักลงทุนกำลังรอคอยการประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นประจำเดือนตุลาคมสำหรับยูโรโซนและสหรัฐฯ การเคลื่อนไหวของคู่เงินยูโรสอดคล้องกับสัญญาณ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงเทซื้อที่มากเกินไป ในขณะที่พลิกกลับจากเส้นแนวรับขาขึ้นที่ก่อตัวขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2023
แรงเทขายยังคงครองสถานการณ์
แม้ว่า สัญญาณ RSI (14) ที่บ่งชี้ถึงแรงเทขายที่มากเกินไปจะสนับสนุนการดีดตัวของคู่เงิน EURUSD จากแนวรับสำคัญ แต่สัญญาณ MACD ที่เป็นช่วงขาลงและระดับราคาที่มีการซื้อขายต่ำกว่าเส้น 200-SMA ทำให้แรงเทขายยังคงมีทิศทางเป็นบวก โดยแนวโน้มขาลงแข็งแกร่งขึ้นจากการคาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้นจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อเทียบกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)
ระดับทางเทคนิคสำคัญที่ควรจับตามอง
เส้นแนวรับอายุหลายเดือนที่ระดับ 1.0765 จะมีความสำคัญต่อคู่เงิน EURUSD โดยการทะลุลงต่ำกว่าระดับดังกล่าวอย่างชัดเจนอาจทำให้คู่เงินยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดของเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมิถุนายน 2024 ที่ประมาณ 1.0700 และ 1.0680 ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม หากสภาวะสัญญาณ RSI ยังคงระดับเดิม ช่วงแนวโน้มขาลงยูโรอาจเผชิญกับความท้าทายที่ระดับราคาที่ราวๆ 1.0680 หากไม่เป็นเช่นนั้น ระดับต่ำสุดในรอบปีที่ทำเครื่องหมายไว้ในเดือนเมษายนที่ประมาณ 1.0600 จะเป็นแนวรับสุดท้ายสำหรับแรงเทซื้อก่อนที่คู่เงิน EURUSD จะมุ่งหน้าไปสู่ระดับต่ำสุดในช่วงปลายปี 2023 ที่ประมาณ 1.0450 ต่อไป
ในอีกทางหนึ่ง การดีดตัวขึ้นของคู่เงิน EURUSD ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก ในขณะที่มีการซื้อขายที่ระดับต่ำกว่าเส้น 200-SMA ที่ราวๆ 1.0870 อย่างไรก็ตาม แนวรับที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ที่ระดับ Fibonacci 50% จากการพุ่งสูงขึ้นของคู่เงินยูโรระหว่างเดือนตุลาคม 2023 และเดือนกันยายน 2024 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1.0830 นอกจากนี้ ระดับ Fibonacci 38.2% และเส้นแนวรับอายุ 11 สัปดาห์ที่ใกล้เคียงกับระดับ 1.0920 และ 1.1000 จะเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับช่วงแนวโน้มขาขึ้น หากระดับราคาทะลุผ่านระดับ 1.0830 ไปได้
การฟื้นตัวยังคงเผชิญความท้าทาย
แม้ว่าสัญญาณทางเทคนิคบางอย่างจะบ่งชี้ว่าแรงเทขายอาจกำลังสูญเสียโมเมนตัม แต่ปัจจัยทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานหลายประการยังคงชี้ให้เห็นว่าแรงเทซื้อยังไม่พร้อมที่จะเข้ามา การดีดตัวขึ้นของคู่เงิน EURUSD อาจดำเนินต่อไปได้ หากข้อมูลเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปแข็งแกร่งและข้อมูลของสหรัฐฯอ่อนแอลง อย่างไรก็ตาม หากดอลลาร์สหรัฐฯมีเซอร์ไพรส์เชิงบวก ความเป็นไปได้ที่คู่สกุลเงินนี้จะปรับตัวลดลงต่อไปก็ยังคงมีโอกาสสูง
