วานนี้ ราคาทองคำได้ดิ่งทะลุเส้นแนวโน้มขาขึ้นของ 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงเส้น DMA 21 วันใกล้เคียงกับราคาสูงสุดเดิมของกลางปี 2021 โดยในมุมมองทางเทคนิค มีสัญญาณ RSI ที่ยังห่างไกลจากระดับ Oversold เป็นปัจจัยลบสำคัญ อีกทั้งราคาที่หลุดระดับสำคัญต่างๆ มาได้ทำให้ฝั่งขายชอร์ต (Short sell) ยังคงได้เปรียบ ท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (US Treasury yield) ปรับตัวขึ้นก่อนที่เราจะได้รู้กันว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ ฉะนั้น ขาลงทองคำยังมีเส้นแนวนอนใกล้เคียงกับราคา High เดิมตั้งแต่เดือน พ.ย. ปี 2021 และต้นเดือน ก.พ. ปี 2022 ที่ราวๆ $1,880-77 เป็นระดับสำคัญที่จะต้องทะลุผ่านไปให้ได้ ก่อนที่ราคาจะย่อตัวลงไปได้ถึงเส้น DMA 50 วัน ที่ระดับ $1,864 ได้ในที่สุด
ทั้งนี้ หาก Fed ยังไม่มีแผนที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำกลับตัวขึ้นไปทดสอบแนวรับเดิมที่ผ่านมา ที่ราวๆ $1,957 ซึ่งกลายเป็นแนวต้านสำคัญที่ต้องระวังขณะนี้ โดยหากราคาทองสามารถทะลุผ่านและยืนบวกเหนือ $1,957 ไปได้ ก็อาจมีโอกาสพุ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้านทางจิตวิทยา ที่ $2,000 โดยมีเป้าหมายต่อไปอยู่ที่ $2,045-50 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งด่านสำคัญของฝั่งขาขึ้น ก่อนที่ราคาจะทะยานขึ้นไปแตะระดับ All-time high ของปี 2020 ที่ประมาณ $2,075 ได้อีกครั้ง
สรุปภาพรวมขณะนี้ มองฝั่งขายยังคงได้เปรียบ อย่างไรก็ดี นักลงทุนจะต้องติดตามความเคลื่อนไหวและการตัดสินใจของ Fed อย่างใกล้ชิดต่อไป