สัญญาณ RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงเทขายที่มากเกินไป รวมถึงแนวรับสำคัญที่ระดับ $2,293 จะท้าทายแรงเทขายทองคำก่อนการรายงานข้อมูลสำคัญสหรัฐฯ
ราคาทองคำยังคงถูกกดดันที่ระดับต่ำสุดในรอบสองสัปดาห์ ในขณะที่ เมื่อวานนี้แสดงให้เห็นถึงการร่วงลงทะลุเส้นแนวรับที่เพิ่มสูงขึ้นอายุสามสัปดาห์ ซึ่ง ณ ขณะนี้ ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า บรรยากาศการซื้อขายที่มีความระมัดระวังก่อนการรายงานข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ สอดคล้องกับเงื่อนไข RSI ที่บ่งชี้ถึงแรงเทขายที่มากเกินไป และเส้นแนวรับที่มีแนวโน้มสูงขึ้นตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนจะท้าทายช่วงแนวโน้มขาลงที่ประมาณ $2,293 ในเวลาต่อมา ในบรรดาข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญ ตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ การดีเบตระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ Joe Biden และDonald Trump รวมถึงดัชนีราคา PCE พื้นฐานของสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้การซื้อขาย XAUUSD อย่างต่อเนื่องที่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอกซ์โพเนนเชียล (EMA) 50 บาร์ และสัญญาณ MACD ที่เป็นช่วงขาลงร่วมกับเส้นแนวโน้มที่กล่าวมาข้างต้น จะช่วยให้แรงเทขายสามารถทะลุแนวรับสำคัญที่ราวๆ $2,293 ไปได้
อย่างไรก็ตาม จุดต่ำสุดในรอบเดือนที่ประมาณ $2,286 รวมไปถึงระดับต่ำสุดของเดือนพฤษภาคมที่ราวๆ $2,277 และจุดต่ำสุดในช่วงต้นเดือนเมษายนที่แกว่งตัวอยู่ที่ประมาณ $2,267 จะเป็นอีกแนวรับที่ต้องจับตามองในช่วงที่ราคาทองคำอ่อนตัวลงผ่านระดับราคาที่ราวๆ $2,293 หลังจากนั้น ระดับค่า Fibonacci ratio 76.8% ของช่วงขาขึ้นระหว่างเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับระดับ $2,210 จะทำหน้าที่เป็นแนวรับสุดท้ายของแรงเทซื้อ ก่อนที่จะกำหนดทิศทางราคาให้ไปสู่จุดต่ำสุดของเดือนมีนาคมที่ราวๆ $2,146 ต่อไป
ในขณะเดียวกัน การฟื้นตัวของราคาทองคำจำเป็นต้องได้รับการยืนยันจากปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจที่มีน้ำหนักต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสิ่งที่ท้าทายช่วงแนวโน้มขาขึ้นของ XAUUSD อีกประการหนึ่งคือการบรรจบกันของเส้น 50-EMA และเส้นแนวรับก่อนหน้าอายุสามสัปดาห์ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ $2,324 ในกรณีที่โลหะมีค่ายังคงปรับตัวสูงขึ้นเหนือระดับ $2,324 เส้นแนวต้านที่ลาดลงตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนที่ราวๆ $2,364 และจุดสูงสุดในรอบเดือนที่ประมาณ $2,387 จะอยู่ในเรดาร์ของแรงเทซื้อ เหนือสิ่งอื่นใด พื้นที่แนวนอนที่ประกอบไปด้วยระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่บริเวณ $2,432-35 ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับช่วงแนวโน้มขาขึ้นของราคาทองคำ
สรุปภาพรวม ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะยังคงปรับตัวลดลง ถึงกระนั้น ช่วงขาลงยังจำเป็นต้องได้รับแรงหนุนจากปัจจัยพื้นฐานเพื่อสนับสนุนช่วงแนวโน้มขาลง
