สอนวิธีเล่นหุ้นแบบละเอียด สำหรับมือใหม่หัดเทรดหุ้น

การเทรดหุ้นหรือหลักทรัพย์ต่างๆ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนในระยะยาว โดยถึงแม้จะมีการเทรดหุ้นมาเป็นระยะเวลานานแล้วก็ตาม แต่การเทรดหุ้นก็ยังเป็นวิธีการลงทุนยอดนิยมสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างรายได้ตอบแทน เพราะไม่ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนหรือทักษะมากมายก็เทรดทำกำไรได้ไม่ยาก

ที่สำคัญในปัจจุบันมีเทคนิคและกลยุทธ์ในการเทรดหุ้นหลายแบบซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่หัดเล่นหุ้นเป็นอย่างมาก แถมเริ่มเทรดได้ง่ายๆ เพียงเปิดบัญชีเทรด และฝากเงินเข้าบัญชี จากนั้นก็เลือกซื้อหุ้นที่ต้องการลงทุนได้เลยครับ ง่ายมากๆ แต่ก่อนจะเริ่มเทรด เราขอแนะนำให้ท่านเพิ่มความรู้แบบเบสิคสักหน่อยว่า ตลาดหุ้นคืออะไร? จะเริ่มซื้อขายหุ้นได้ยังไง? รวมถึงวิธีการลงทุนตราสารหนี้และหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆ ที่นำมาปรับใช้กับการเทรดหุ้นได้ โดยรับรองได้เลยว่าวิธีที่เรานำมาแนะนำในวันนี้เหมาะสำหรับมือใหม่หัดเทรดแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว… ไปลุยกันเลย!

ขั้นตอนที่ 1 – เลือกประเภทตราสารที่ต้องการเทรด

เริ่มแรก ท่านจะต้องสำรวจดูก่อนว่าท่านมีประสบการณ์ในการลงทุนและเข้าใจตราสารการเงินต่างๆ มากน้อยแค่ไหน แน่นอนว่ามือใหม่หัดเทรดสามารถเลือกลงทุนในตลาดหุ้นได้ 2 วิธีหลักๆ ได้แก่:

• เลือกซื้อหุ้นและเทรดหุ้นด้วยตัวเอง – วิธีนี้ท่านจะต้องคอยควบคุมและจัดการการเทรดเองตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นการหาหุ้น เลือกซื้อหุ้นที่มีแนวโน้มได้กำไร ไปจนถึงการขายหุ้นด้วยตัวเอง
• ให้ผู้เชี่ยวชาญบริหารการลงทุนให้ – วิธีนี้ง่ายกว่าวิธีก่อนหน้า เนื่องจากท่านไม่ต้องคอยกังวลหรือบริหารการลงทุนด้วยตัวเองเลยแม้แต่น้อย สำหรับการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ เราเรียกบริการนี้ว่า Copy Trade ซึ่งสิ่งที่ท่านต้องทำก็เพียงแค่คัดลอกการเทรดของนักเทรดมืออาชีพ โดยมีระบบคัดลอกอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และทำกำไรได้ง่ายๆ ทุกครั้งที่นักเทรดเหล่านั้นเทรดชนะ มีนักลงทุนมากมายที่ประสบความสำเร็จจากการ Copy Trade ตามนักเทรดมืออาชีพ!

สำหรับมือใหม่หัดเล่นหุ้น เราขอแนะนำตัวเลือกที่ 2 เพราะไม่ต้องเข้าใจตลาดมากก็สามารถลงทุนได้ แถมยังเสี่ยงขาดทุนน้อยกว่าเทรดเองอีกต่างหาก ที่สำคัญหากใครที่ไม่ค่อยมีเวลามานั่งเฝ้ากราฟเอง วิธี Copy Trade เทรดอัตโนมัติก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียวครับ

ขั้นตอนที่ 2 – เปิดบัญชีเทรด

ขั้นตอนนี้ง่ายมากๆ เพียงแค่ท่านกรอกข้อมูลลงทะเบียนเพื่อเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนให้เสร็จเรียบร้อย แต่ถึงแม้อาจฟังดูไม่ได้ซับซ้อนวุ่นวายเท่าไหร่นัก แต่ขั้นตอนนี้ก็เป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะท่านจะต้องเลือกเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ มีเครื่องมือเทรดคุณภาพให้บริการ และมี ประเภทบัญชีเทรดให้เลือก ตามสไตล์การเทรด รวมถึงวิธีการเทรดที่เราแนะนำไปในขั้นแรก และอย่าลืมพิจารณาดูว่าโบรกเกอร์แต่ละเจ้านั้นกำหนดปริมาณขั้นต่ำเท่าไหร่ในการเริ่มลงทุน โดยท่านควรเลือกแพลตฟอร์มเทรดที่มีประสิทธิภาพและกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำไม่มาก เพื่อป้องกันโอกาสเสี่ยงที่จะเสียเงินหรือเทรดขาดทุน

ขั้นตอนที่ 3 – กำหนดจำนวนเงินลงทุน

เงินลงทุนขั้นต้นสำหรับการเริ่มเทรดหุ้นขึ้นอยู่หลายๆ ปัจจัย ได้แก่:

• เงินฝากขั้นต่ำ – เงินฝากขั้นต่ำเป็นจำนวนเงินเริ่มต้นที่โบรกเกอร์กำหนดสำหรับการเริ่มลงทุนซื้อขายหุ้น
• เงินทุนขั้นต่ำที่ท่านจะต้องใช้ – ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นและจำนวนหุ้นที่ท่านต้องการซื้อ
• เป้ากำไรที่คาดหวัง – หลังจากเลือกหุ้นที่ต้องการซื้อแล้ว ลองคำนวณกำไรและพิจารณาโอกาสในการได้รับผลตอบแทนในรูปแบบต่างๆ (กำไร อัตราดอกเบี้ย และเงินปันผล เป็นต้น) จากหุ้นนั้นๆ และอย่าลืมดูระยะเวลา (Timeframe) ในการลงทุนด้วยล่ะครับ เพราะหุ้นส่วนใหญ่มักจะได้กำไรดียิ่งขึ้นหากลงทุนในระยะยาว

ขั้นตอนที่ 4 – บริหารจัดการพอร์ต

จริงอยู่ที่ว่าการลงทุนหุ้นในระยะยาวนั้นมักจะไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของตลาดมากเท่าไหร่นัก แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนก็ควรบริหารพอร์ตและกระจายการลงทุนในพอร์ตอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนให้ได้กำไรมากยิ่งขึ้น

เคล็ดลับไม่ได้อยู่ที่การเฝ้าติดตามราคาหุ้นหรือกองทุนเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญคือนักลงทุนจะต้องตั้งเป้าหมายในการลงทุนให้ชัดเจนอีกด้วย เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่าตลาดหุ้นนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ทุกวัน และยังมีหลายบริษัทที่ออกหุ้นตัวใหม่ๆ มาล่อตาล่อใจนักลงทุน ความเคลื่อนไหวต่างๆ ในตลาดจะส่งผลต่อการเติบโตของพอร์ตของท่าน ดังนั้น อย่าลืมติดตามเทรนด์เศรษฐกิจ ข่าวการเมือง และการอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอนะครับ

ยิ่งไปกว่านั้น ท่านอาจปรับพอร์ตและลงทุนหุ้นในรูปแบบที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของท่าน เช่น หากท่านต้องการเตรียมตัวเกษียณโดยการมองหาช่องทางการลงทุนที่มั่นคงและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ท่านอาจเลือกลงทุนหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่มั่นคงอย่างกองทุนหุ้นหรือหุ้นที่มีเงินปันผล ซึ่งการันตีได้เลยว่าท่านจะได้รับส่วนแบ่งรายได้ตามวันเวลาที่เจ้าของหุ้นกำหนดไว้

การกระจายการลงทุนในตลาดใหม่ๆ (Geographic diversification) ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ดีที่ช่วยให้พอร์ตของท่านโตขึ้น โดยมีหลักการสำคัญคือการเลือกลงทุนในหลายๆ ประเทศและหลายพื้นที่ เราขอแนะนำให้ท่านลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มว่าหุ้นประเทศไหนมีโอกาสให้กำไรที่น่าพึงพอใจ อย่างที่เหล่านักเทรดมืออาชีพมักแนะนำเสมอว่านักลงทุนควรจะมีหุ้นต่างประเทศอย่างน้อย 40% ในพอร์ต เพื่อสร้างกำไรให้มากขึ้นและทำให้พอร์ตโตขึ้นตามที่ท่านตั้งเป้าหมายไว้นั่นเอง

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน