Risk management หรือ การบริหารความเสี่ยงในการเทรด Forex คืออะไร? แล้วทำไมการบริหารความเสี่ยงในการเทรดจึงเป็นสิ่งสำคัญ? เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงจากการเทรด forex ให้ได้ผลจริงมีอะไรบ้าง? มาร่วมคลายทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงในบทความนี้กันเลยครับ!
การจะเทรดให้ประสบความสำเร็จนั้นคงเป็นไปได้ยาก หากเทรดเดอร์ไม่มีการวางแผนอย่างเหมาะสม และก็แน่นอนว่าสำหรับการเทรด forex นั้น แค่วางแผนเทรดอย่างเดียวคงไม่พอ เพราะ ท่านควรทดสอบเทคนิคในการเทรดของท่านเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อพิจารณาผลลัพธ์จากการใช้กลยุทธ์เหล่านั้นว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร โดยท่านอาจใช้การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค อินดิเคเตอร์ และกราฟราคา มาเป็นตัวช่วยในการวางแผนการเทรด อย่างไรก็ตาม นั่นอาจไม่เพียงพอสำหรับการบริหารความเสี่ยงจากการเทรดที่เทรดเดอร์ทุกรายต้องประสบพบเจออยู่ทุกวัน เมื่อก้าวเข้าสู่ตลาด
ก่อนที่เราจะไปเรียนรู้วิธีบริหารความเสี่ยง เทรดเดอร์ควรทำความรู้จักกับศัตรูตัวฉกาจที่ท่านจะต้องพบเจอในตลาดเสียก่อน พูดง่ายๆ ก็คือ ประเภทความเสี่ยงจากการเทรด ซึ่งมีอยู่หลักๆ ดังนี้:
เอาล่ะครับ ตอนนี้เทรดเดอร์ทุกท่านคงทราบดีแล้วว่า มีความเสี่ยงประเภทใดบ้างที่ท่านควรจัดการ ดังนั้น ได้เวลามาเรียนรู้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อใช้บริหารความเสี่ยงในการเทรด forex อย่างมีประสิทธิภาพ
หากจะอยู่รอดในตลาดได้อย่างมั่นคง เทรดเดอร์จะต้องทำความเข้าใจว่าตลาดมีหลักการทำงานอย่างไร ซึ่งนั่นรวมถึงการตั้งคำถามกับตัวเองว่า ท่านจะเทรดตราสารประเภทใด? จะใช้กลยุทธ์ใดในการเทรด? ต้องการลงทุนในระยะสั้นหรือระยะยาว? และจะใช้เครื่องมือ หรือ อินดิเคเตอร์ใดเป็นตัวช่วยในการเทรด?
และคำถามสำคัญคือ จะเทรดที่ไหนดี? ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ หรือตลาดซื้อขายในทันที (Spot market) เป็นต้น แต่ไม่ว่าท่านจะเลือกเทรดที่ใดก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ท่านจะต้องเริ่มต้นด้วย การเรียนรู้ forex ขั้นพื้นฐาน ให้มั่นใจเสียก่อน โดยการทำความเข้าใจหลักการทำงานพื้นฐานของตลาดการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถจัดการความเสี่ยงในการเทรด forex ได้ดียิ่งขึ้น
การเทรด forex ก็ถือเป็นการคำนวณประเภทหนึ่ง ที่ท่านต้องจับตาความเคลื่อนไหวของราคา รวมถึง CFDs และค่าสเปรด หรือในอีกทางหนึ่งก็คือ การวางแผนเตรียมตัวสำหรับการเทรดด้วยเลเวอเรจนั่นเอง เพราะมันอาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในการทำกำไรในตลาดที่มีความเสี่ยง แม้จะฝากเงินเริ่มต้นเพียงเล็กน้อยก็ยังทำกำไรได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียที่เทรดเดอร์ควรระวังคือ ปริมาณในการขาดทุน ดังนั้น เทรดเดอร์จะต้องมีกลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลาย เพื่อปรับใช้ให้เหมาะกับสภาวะของตลาดที่แตกต่างกัน
ขั้นต่อไป คือ การวางแผนบริหารความเสี่ยงที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ซึ่งเทรดเดอร์ไม่ควรที่จะวางแผนโดยอาศัยเพียงข่าว หรือบทวิเคราะห์เท่านั้น แต่ควรวางแผนการจัดการความเสี่ยงจากประสบการณ์ที่พบเจอจากการอยู่ในตลาดจริงๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจให้ดียิ่งขึ้นด้วยมุมมองในตลาดที่หลากหลาย
เทรดเดอร์มือใหม่บางรายอาจใช้กลยุทธ์ในการบริหารความเสี่ยงที่เหล่านักเทรดมืออาชีพนิยมใช้กันเพื่อเทรดให้ประสบความสำเร็จ แต่นั่นอาจไม่ใช่ไอเดียที่ดีเสียทีเดียว เว้นแต่ว่าท่านกำลังคำนึงถึงระบบ Copy trade อยู่ แต่หากท่านคิดว่าจะใช้วิธีจัดการความเสี่ยงแบบเดียวกับที่เทรดเดอร์รายอื่นๆ ใช้ล่ะก็… เราขอแนะนำให้ท่านใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับรูปแบบการเทรดโดยเฉพาะของท่านจะดีกว่าครับ โดยสิ่งสำคัญที่ท่านควรมีก็คือ สมุดบันทึกการเทรด ที่ใช้สำหรับจดบันทึกประวัติการซื้อขายจริงๆ ที่ประกอบไปด้วยทั้งกำไรที่ได้และการขาดทุน แล้วมั่นใจได้เลยว่า มันจะช่วยให้ท่านสามารถวิเคราะห์เกี่ยวกับพฤติกรรมในการเทรดของท่าน เพื่อปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมสำหรับการบริหารความเสี่ยงในการเทรดได้ในที่สุด
การเทรดด้วยบัญชีเดโม่ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการทดลองทักษะการเทรด และปรับใช้กลยุทธ์เทรดที่เหมาะสมในสภาวะตลาดจริงแบบไร้ความเสี่ยง เพราะท่านไม่จำเป็นต้องฝากเงินในพอร์ทก็สามารถทดลองเทรดได้ แถมยังเข้าถึงแพลตฟอร์มเทรด เครื่องมือเทรด และฟีเจอร์ต่างๆ ได้เต็มรูปแบบอีกด้วย
เริ่มต้นเทรดอย่างมั่นใจ ด้วยการเปิด บัญชีเดโม่ พร้อมรับเงินทดลอง $5000 แล้วเริ่มเทรดในสภาวะและเงื่อนไขของตลาดจริงได้แบบ 100% บนแพลตฟอร์มเทรดคุณภาพเยี่ยมอย่าง MT4 ที่เหล่านักเทรดมือโปรใช้ทำกำไรกันจริงๆ เรียนรู้การเทรดได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะสูญเสียเงินใดๆ ทั้งสิ้น และเมื่อพร้อมรับกำไรจริง สามารถเปลี่ยนมาใช้บัญชีจริงเทรดได้ในระบบเช่นเดิม
วิธีการสำคัญในการจัดการความเสี่ยงในการขาดทุน คือ การตั้งอัตราความเสี่ยงและผลตอบแทน หรือ Risk-reward ratio ที่เหมาะสม มันเป็นเรื่องธรรมดาหากท่านจะเทรดขาดทุนบ้างบางครั้ง เพราะไม่มีนักลงทุนคนใดไม่เคยขาดทุนจริงไหมล่ะครับ? แต่คำถามสำคัญที่ท่านควรถามตัวเองก็คือ ท่านจะขาดทุนได้มากเท่าไหร่? และการลงทุนนั้นมันให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากแค่ไหนในระยะยาว? ฉะนั้น การคำนวณ risk-reward ratio ก็จะมีประโยชน์สำหรับการพิจารณาความคุ้มค่าจากการลงทุนนั่นเอง
การป้องกันการขาดทุนอาจไม่ยากอย่างที่คิด เพราะ มีเครื่องมือและกลยุทธ์มากมายให้ท่านได้เลือกใช้ในการบริหารความเสี่ยง สิ่งสำคัญที่ท่านควรทำ คือ การตั้งลิมิตในการออกคำสั่งซื้อขาย รวมถึงการตั้ง stop loss หรือจุดตัดขาดทุน ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการขาดทุน
และที่สำคัญ การใช้ กลยุทธ์ stop loss ที่หลากหลาย เช่น Trailing stop จะช่วยทำให้การเทรดของท่านปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ควรพึงระลึกไว้เสมอว่าการตั้ง stop loss นั้นอาจไม่ได้ช่วยป้องกัน Slippage ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากสภาพคล่องของตลาด forex นะครับ
การควบคุมอารมณ์ก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ ไม่ว่าท่านจะมีพื้นฐานหรือประสบการณ์การเทรดมากแค่ไหนก็ตาม การมีระเบียบวินัยในการเทรดก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่คอยวัดว่าท่านสามารถยืนอยู่ในตลาดได้อย่างแข็งแกร่งมากแค่ไหน และไม่ว่าตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ท่านจะต้องยึดมั่นตามแผนการเทรดที่ท่านวางไว้ให้ดีที่สุดเสมอ (ซึ่งแผนการเทรดนั้นควรได้รับการทดสอบแล้วว่าใช้ได้ผลจริงๆ นะครับ)
เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเทรดให้มากยิ่งขึ้น อย่าลืมติดตามข่าวสาร เหตุการณ์สำคัญ และบทวิเคราะห์ต่างๆ และโปรดมั่นใจว่าท่านสามารถใช้กลยุทธ์เทรดที่หลากหลายด้วย อินดิเคเตอร์วิเคราะห์กราฟเทคนิค และเครื่องมือเทรดที่แตกต่างกัน
และนี่คือ 7 วิธีในการบริหารความเสี่ยงขั้นพื้นฐานที่เทรดเดอร์ควรเรียนรู้และนำไปปรับใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการเทรด และหลีกเลี่ยงการเทรดขาดทุนให้ได้มากที่สุด MTrading ขอให้ทุกท่านโชคดีในการเทรดนะครับ ^__^
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน