AUDUSD ยังคงทรงตัวหลังจาก RBA ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ นักลงทุนหันไปจับตามองตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ

นักลงทุนในตลาดยังคงการเคลื่อนไหวจากช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นก่อนการรายงานข้อมูลและกิจกรรมสำคัญทางเศรษฐกิจประจำสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากข้อมูลที่มีการเผยแพร่ในวันก่อนหน้ามีทิศทางดีขึ้น ประกอบกับความเห็นเชิงสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญและความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในจีน ยังส่งผลให้ดอลล์สหรัฐฯกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งหลังจากที่อ่อนค่าลงในช่วงต้นวัน

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ยังคงปรับตัวลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางการขาดปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญและข้อสงสัยของตลาดเกี่ยวกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อย่างไรก็ตาม แรงเทซื้อคู่เงิน USDJPY ยังคงพยายามรักษาระดับ หลังจากที่พุ่งสูงขึ้นในช่วง 3 วันที่ผ่านมาติดต่อกันจากการส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) Kazuo Ueda

ในอีกทางหนึ่ง คู่เงิน AUDUSD ยังคงขาดแรงผลักดัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ยังคงนโยบายการเงินเดิมไว้และพยายามปกป้องการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวด โดยคู่เงิน NZDUSD ก็ปรับตัวลงเช่นกัน สืบเนื่องมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงินกลุ่ม Antipodeans ที่อ่อนตัวลง ในขณะที่ คู่เงิน USDCAD กลับสามารถยุติการร่วงลงสองวันติดต่อกันได้สำเร็จ

ราคาน้ำมันดิบร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยราคาทองคำยังคงขาดโมเมนตัม ขณะที่นักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์กำลังมองหาสัญญาณแนวโน้มเพิ่มเติม ท่ามกลางดอลลาร์สหรัฐฯที่ฟื้นตัวขึ้นและการรายงานหัวข้อข่าวเชิงลบที่ส่งผลต่อความเสี่ยงในตลาดจากตะวันออกกลางที่หยุดชะงักไป

เมื่อพูดถึงสกุลเงินดิจิทัล BTCUSD และ ETHUSD ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากการชำระบัญชีสถานะ long ของเหล่าเทรดเดอร์มีการเร่งตัวขึ้นก่อนหน้าการอนุมัติ Spot ETH ETF จากสำนักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐอเมริกา (US SEC)

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันดิบ WTI ถอยจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ สู่การร่วงลงครั้งแรกในรอบ 3 วัน โดยลดลง 0.50% ระหว่างวันที่ประมาณ $79.50
• ทองคำ (Gold) ยังคงทรงตัวอยู่ที่ประมาณ $2,320 หลังจากมีการร่วงลงเล็กน้อยในวันก่อนหน้า
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) มีราคาเสนอซื้อเป็นบวก โดยพลิกกลับการปรับตัวลงของวันก่อนหน้าจากระดับในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ล่าสุด ราคาเสนอซื้อปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ 105.40
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดบวกเล็กน้อยเช่นเดียวกับ หุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังคงปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงเปิดการซื้อขาย
• BTCUSD และ ETHUSD ยังคงถูกกดดันที่ระดับต่ำสุดในรอบเดือน โดยลดลงมากกว่า 1.0% ที่ประมาณ $65,600 และ $3,450 ตามลำดับ

ดอลลาร์สหรัฐฯฟื้นตัวก่อนการรายงานข้อมูลสำคัญ...

ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น โดยพลิกกลับการอ่อนตัวลงในวันจันทร์ ขณะที่เทรดเดอร์กำลังเตรียมตัวสำหรับการเผยแพร่ข้อมูลยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯประจำเดือนพฤษภาคม นอกจากนี้ ปัจจัยที่หนุนให้ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นอีกประการหนึ่งคือ การส่งสัญญาณการดำเนินการเข้มงวดทางนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่มีทิศทางเป็นบวก และความต้องการถือครองดอลลาร์สหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นของเทรดเดอร์ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุด Juneteenth อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของนิวยอร์ก (US Empire State Manufacturing Index) ประจำเดือนมิถุนายนแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อวันก่อนหน้า โดยประธานธนาคารกลางสหรัฐฯประจำฟิลาเดลเฟีย Patrick Harker ได้ออกมากล่าวว่า "เขาคิดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวเป็นสิ่งที่เหมาะสม แต่ทั้งนี้ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลที่มีการรายงานออกมา"

แม้ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะยังมีท่าทีลังเลที่จะส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ย คู่เงิน EURUSD และคู่เงิน GBPUSD ก็ยังคงได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯ

ในขณะเดียวกัน คู่เงิน USDJPY ไม่สามารถปรับตัวสอดคล้องกับการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐฯได้ ขณะที่ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) Kazuo Ueda กล่าวถึงโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่ได้ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเด็ดขาดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ซบเซาและตลาดที่มีความผันผวนยังคงสร้างแรงกดดันด้านลบต่อคู่เงินเยนอีกด้วย

ในอีกทางหนึ่ง การยุติการดำเนินนโยบายการเงินที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ส่งผลให้คู่เงิน AUDUSD ยังคงอยู่ในสภาวะทรงตัว โดยธนาคารกลางออสเตรเลียได้อ้างถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความยากลำบากในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้บรรลุเป้าหมาย ในขณะที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ 4.35% ตามเดิมในช่วงต้นวันอังคาร อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ร่วมกับความคาดหวังที่ว่า RBA อาจจะปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต ยังช่วยให้แรงเทขายคู่เงิน AUDUSD ยังคงมีความหวัง

ในอีกทางหนึ่ง คู่เงิน NZDUSD ร่วงลงแรงที่สุดในบรรดาคู่เงิน G10 เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯที่ฟื้นตัวขึ้นจากการปรับตัวลงในช่วงต้นสัปดาห์ก่อนที่จะมีการเผยแพร่ข้อมูลและกิจกรรมสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในจีน ในขณะเดียวกัน คู่เงิน USDCAD ยุติการร่วงลง 2 วันติดต่อกัน ซึ่งเป็นผลมาจากดอลลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยราคาน้ำมันดิบที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของแคนาดากำลังปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน เนื่องจากความคาดหวังเกี่ยวกับอุปสงค์และอุปทานเริ่มเลือนหายไป ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed และข้อกังขาเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจของจีน

ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะอ่อนตัวลง แต่ราคาทองคำกลับยังคงแกว่งตัวอยู่ภายในกรอบการซื้อขายประจำสัปดาห์ โดยมีราคาเสนอซื้อเป็นบวกท่ามกลางความผันผวนของตลาด นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ยังคงพยายามรักษาโมเมนตัมขาขึ้น ควบคู่ไปกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของตลาดเกี่ยวกับทิศทางการดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของเหล่าธนาคารกลางชั้นนำและตลาดหุ้นที่ปรับตัวดีขึ้น ยังช่วยหนุนราคาทองคำในภายหลังอีกด้วย

• สัญญาณซื้อแรง: USDCAD, USDJPY, US Dollar, Silver
• สัญญาณขายแรง: AUDUSD, NZDUSD, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold, DJI30, USDCNH
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, EURUSD, Crude Oil

จับตามองตัวเลขยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ รวมถึงติดตามการประชุมของ Fed ก่อนวันหยุด Juneteenth….

ขณะนี้ การฟื้นตัวของดอลลาร์สหรัฐฯนั้นล้วนขึ้นอยู่กับการรายงานข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจของสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมไปถึงทิศทางการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ก่อนที่จะถึงวันหยุดในวันพุธ เนื่องในวัน Juneteenth อีกด้วย สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ต้องติดตามคือ การรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสุดท้ายของยูโรโซนประจำเดือนพฤษภาคมและข้อมูลสำรวจ ZEW ประจำเดือนมิถุนายน ด้วยการรายงานข้อมูลเหล่านี้ เทรดเดอร์น่าจะได้เห็นวันที่ตลาดเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ซึ่งอาจช่วยหนุนให้ดอลลาร์สหรัฐฯขยายการปรับตัวสูงขึ้นล่าสุดได้ หากข้อมูล/กิจกรรมที่มีกำหนดการเผยแพร่นี้มีการบ่งชี้ถึงแนวโน้มว่า Fed อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า แนวโน้มความคิดเห็นในตลาดขณะนี้ชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปี 2024 ซึ่งลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่านั้น โดยปัจจัยนี้ยังส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด !