EURUSD ทะยานขึ้นในรอบห้าวัน ท่ามกลางความเชื่อมั่นในตลาดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง

ปัจจัยเสี่ยงที่ลดลงในวันพฤหัสบดี ส่งผลให้ตลาดรวมถึงคู่เงิน EURUSD มีสัญญาณการเคลื่อนไหวหลังจากซบเซามานาน

โดยจากการแถลงของ FED ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศจีน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตลาดเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังส่งผลโดยตรงเงินดอลลาร์สหรัฐฯท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ตกต่ำ

นอกจากนี้ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นของออสเตรเลีย และจีนทำให้ AUDUSD ดีดตัวขึ้นนำหน้าคู่เงินหลักอื่นๆ (G10) ในขณะที่ EURUSD ยังคงแข็งค่าขึ้นแม้ว่าข้อมูลเงินเฟ้อจากเนเธอร์แลนด์ และเยอรมนีจะลดลง

ทั้งนี้ความเชื่อมั่นในตลาดที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ทองคำมีราคาพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สี่ ส่วนราคาน้ำมันดิบมีการปรับขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางความหวังที่จะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม BTCUSD และ ETHUSD ยังคงไม่มีการปรับตัวขึ้น แม้ตลาดจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นรวมถึงดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลง โดยอาจมีสาเหตุมาจากยังไม่มีข่าวที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตได้ในขณะนี้

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

• น้ำมันเบรนท์ (Brent) พุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สามราวๆ $85.00
• ทองคำ (Gold) พุ่งขึ้นจากเมื่อวานเป็นวันที่สี่ 0.40% ที่ราวๆ $1,882
• ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD INDEX) พุ่งขึ้นเล็กน้อยจากเมื่อวานที่ราวๆ 103.20
• ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดลบ ในขณะที่หุ้นในเอเชียเปิดผสม อย่างไรก็ตามหุ้นในยุโรปรวมถึงสหราชอาณาจักรมีการดีดตัวขึ้นเล็กน้อย
• BTCUSD และ ETHUSD พากันย่อลงมาที่ราวๆ $22,700 และ $1,630 ตามลำดับ

ปัจจัยเสี่ยงในตลาด

แม้ว่าผู้ว่าการธนาคารกลางส่วนใหญ่ ยกเว้นผู้ว่าแบงค์ชาติแคนาดา (BoC) จะมีการแถลงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงแก่ตลาดอย่างไรก็ตามความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ผ่อนคลายลง รวมถึงความคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีน อาจเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดได้

ในขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับท่าทีของผู้ว่าแบงค์ชาติญี่ปุ่น (BoJ) คนต่อไปในการประกาศนโยบายการเงิน ช่วยให้เงินเยนแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตามการที่คู่เงิน USDJPY ดีดตัวขึ้นอาจทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับลดลง

ทั้งนี้ EURUSD ไม่ได้รับผลกระทบจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ลดลงในเยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ โดยคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) มีการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจว่าสัญญาณภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด

นอกจากนี้ราคาทองคำได้มีการปรับตัวขึ้น โดยเป็นผลมาจากข่าวเกี่ยวสถานการณ์ในกับจีน รวมถึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ยังคงอ่อนค่าลง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ทุกตลาดมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบดีดตัวเข้าใกล้จุดสูงสุดในรอบสัปดาห์ เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน พูดถึงการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบ

สำหรับตลาดคริปโตยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการตรวจสอบ Bitcoin และ Ethereum ทำให้ราคา BTCUSD และ ETHUSD พากันร่วง แม้ความเสี่ยงในตลาดจะลดลง รวมถึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนค่าลงก็ตาม

• สัญญาณซื้อแรง: USDJPY
• สัญญาณขายแรง: ETHUSD, GBPUSD
• สัญญาณซื้อ: USD Index, USDCAD, Nasdaq, EURUSD
• สัญญาณขาย: DAX, FTSE 100, gold, BTCUSD, AUDUSD

จับตาท่าทีธนาคารกลาง และ การคาดการณ์เศรษฐกิจ

จากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงในเยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ ทำให้นักลงทุนสามารถติดตามการคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาสจากคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เพื่อตรวจสอบทิศทางที่ชัดเจนของตลาดได้ นอกจากนี้คำแถลงของผู้ว่าแบงค์ชาติอังกฤษ (BoE) นายแอนดรูว์ เบลีย์ รวมถึงแถลงการณ์ของผู้ว่าธนาคารกลางรายอื่น อาจส่งผลต่อความเคลื่อนไหวในตลาดได้ ก่อนที่จะมีความเคลื่อนไหวสำคัญในวันศุกร์

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!