อินดิเคเตอร์ Donchian Channel ช่วยให้เทรดเดอร์จับจังหวะที่ราคากำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นและขาลง และมีโอกาสที่ราคาจะพุ่งทะลุ (Breakout), กลับตัว (Reversal), เปลี่ยนเทรนด์ และเริ่มเทรนด์ใหม่ (Emerging trend) อีกทั้งยังช่วยระบุระดับของราคาสูงสุด (High) และราคาต่ำสุด (Low) โดยเครื่องมือนี้ถูกคิดค้นและพัฒนาโดย Richard Donchian ในช่วงเริ่มต้นของยุค 80 จึงเป็นที่มาของชื่อ Donchian Indicator นั่นเอง ซึ่งอินดิเคเตอร์ชนิดนี้มีองค์ประกอบสำคัญหลายอย่างที่เทรดเดอร์ควรรู้ เพื่อเทรดโดยใช้ Donchian Channel ให้ได้ผลและได้กำไรจริงๆ
ในบทความวันนี้ เราจะมาเรียนรู้หลักการใช้งาน Donchain indicator พร้อมคลายข้อสงสัยว่าอินดิเคเตอร์ชนิดนี้ ต่างจาก Bollinger Bands อย่างไร และที่สำคัญเรายังมีเทคนิคเทรดแบบมือโปรที่จะช่วยให้ท่านใช้เครื่องมือเทรดนี้ได้อย่างถูกต้องและไม่ผิดพลาด ถ้าพร้อมแล้วล่ะก็… ไปลุยกันเลย!
อินดิเคเตอร์นี้ถูกคิดค้นพัฒนาขึ้นมาโดย Richard Donchian และเริ่มนำมาใช้งานกันจริงจังประมาณ 20 ปีก่อน แต่อินดิเคเตอร์ Donchian Channel ก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่เป็นที่นิยมในหมู่เทรดเดอร์และนักลงทุนแทบทุกระดับ อย่างไรก็ตาม เครื่องมือนี้อาจมีความซับซ้อนเล็กน้อยสำหรับนักเทรดมือใหม่ แต่หากลองศึกษามันดูดีๆ ท่านก็อาจเข้าใจหลักการของอินดิเคเตอร์ Donchian Channel และวิธีใช้อินดิเคเตอร์ชนิดนี้ในเวลาเพียงไม่นาน
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่างของอินดิเคเตอร์ Donchain Channel กันก่อนดีกว่า ซึ่งองค์ประกอบที่ว่านั้นก็คือเส้น 3 เส้นที่วาดขึ้นมาจากการคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving average) นั่นเอง:
บริเวณเส้นตรงกลางจะเป็นตำแหน่งของอินดิเคเตอร์ Donchian Channel นั่นเองครับ
จุดประสงค์หลักที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ใช้เครื่องมือ Donchian Channel ก็เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างกรอบราคาและราคา ณ ปัจจุบัน เทียบกันในกรอบเวลา (Timeframe) ต่างๆ โดยอาศัยการคำนวณจากค่าตัวเลขทั้งหมด 3 ค่าที่เราได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อสร้างรูปแบบแผนภาพราคา (หลักการแบบเดียวกับ Bollinger Bands แต่มีรายละเอียดและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน)
ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เทรดเดอร์เห็นขอบเขตของราคาทั้งขาขึ้นและขาลงใน timeframe ที่ต้องการได้ โดยหากเทรดเดอร์ต้องการดูแนวโน้มหรือแรงขาขึ้น ท่านจะต้องพิจารณาเส้นด้านบนสุด และในขณะเดียวกันหากต้องการดูแรงขาลง ก็ต้องอาศัยเส้นด้านล่างนั่นเอง
เทรดเดอร์มือใหม่บางรายอาจใช้อินดิเคเตอร์นี้แบบผิดๆ โดยไม่รู้ตัว บางคนอาจคิดว่าราคาจากเส้นด้านบนเป็นตัวบ่งบอกว่าตลาดกำลังอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) จึงเป็นไปได้ที่ราคาจะกลับตัวลงไป ทำให้พวกเขาเลือกที่จะเปิดออเดอร์ขาย Short
นั่นผิดเต็มๆ! เพราะในความเป็นจริงแล้ว เมื่อกราฟกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นนานๆ แทนที่ราคาจะกลับตัว ราคาอาจจะแกว่งตัวอยู่บริเวณเส้นด้านบนเป็นเวลานานยิ่งกว่าเดิม หรือพูดง่ายๆ ว่าสิ่งที่เทรดเดอร์ควรระวังก็คือ อินดิเคเตอร์ Donchian Channel ไม่สามารถใช้บอกสภาวะ Overbought หรือ Oversold ของตลาดได้นั่นเอง
ส่วนใหญ่แล้ว Bollinger Bands จะอาศัยการวิเคราะห์ความผันผวนของตลาดและมีการคำนวณปรับเปลี่ยนค่าตัวเลขใหม่ แต่อินดิเคเตอร์ Donchian Channel จะมีค่าตัวเลขที่คงที่ตามราคา high และ low ในแต่ละ timeframe
สรุปจากบทความนี้ได้สั้นๆ ว่าอินดิเคเตอร์ Donchian Channel จัดอยู่ในประเภทตัวชี้วัดตามแนวโน้ม (Trend-following indicator) โดยอินดิเคเตอร์นี้มีส่วนประกอบเป็นเส้น 3 เส้นที่จะช่วยบ่งบอกได้ว่าแรงขาขึ้นและขาลงเป็นอย่างไร แต่ Donchian Channel เองก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่เทรดเดอร์ควรระวัง และบางครั้งก็อาจส่งสัญญาณหลอก (False signal) ที่อาจทำให้นักเทรดตีความผิดได้
อย่าลืมนะครับ! ขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า Donchian Channel Indicator ใช้บอกสภาวะตลาด overbought และ oversold ไม่ได้นะครับ หากท่านต้องการใช้สภาวะตลาดเหล่านั้นในการวิเคราะห์ร่วมกับ Donchian Channel เราขอแนะนำให้ท่านใช้ตัวชี้วัดอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ATR เป็นต้น เพื่อให้ท่านสามารถจับจังหวะที่ราคาจะเบรคเอาท์หรือกลับตัวได้อย่างแม่นยำ และทุกครั้งที่เทรดก็อย่าลืมใช้เครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงด้วยล่ะครับ ยกตัวอย่าง Trailing stop loss ก็เป็นหนึ่งในตัวเลขที่ดีเลยล่ะ!
บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน