พอร์ตกองทุนรวม (Mutual Fund) ต้องขนาดเท่าไหร่ จึงจะดีที่สุด?

กองทุนรวม (Mutual fund) มีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มีนักลงทุนเทความสนใจไปยังสินทรัพย์ดังกล่าวจำนวนมาก ทำให้กองทุนรวมมีขนาดมหาศาล คำถามต่อมาคือมีความเป็นไปได้ไหมที่กองทุนรวมจะเติบโตมากจนส่งผลเสียต่อมูลค่าในอนาคต

นักลงทุนที่มีประสบการณ์จะพยายามตรวจสอบว่ากองทุนมีขนาดใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไปก่อนจะเข้าลงทุน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจมูลค่ากองทุนจริงอย่างชัดเจนและคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือไม่

ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงขนาดที่เหมาะสมของกองทุนรวม โดยไม่ต้องใช้เครื่องคำนวณกองทุนรวม นักเทรดจะได้เรียนรู้วิธีกำหนดกลุ่มสินทรัพย์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนและความชอบของท่าน

กองทุนรวม (Mutual Fund) คืออะไร?

กองทุนรวมเป็นกลุ่มของสินทรัพย์ที่มีการวางแผนซื้อโดยทีมนักลงทุนผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการซื้อและจัดการตราสารต่าง ๆ รวมถึงหุ้น พันธบัตร หลักทรัพย์ ฯลฯ ไอเดียหลักของการเป็นหุ้นส่วนดังกล่าวคือการสร้างพอร์ตที่หลากหลายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้รองรับกับความต้องการของนักลงทุนทุกคนในกลุ่ม

โดยส่วนใหญ่ กองทุนรวมจะถูกควบคุมและจัดการโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ขณะที่ทุกคนสามารถเป็นนักลงทุนได้แม้จะมีพื้นฐานทางการเงินหรือทักษะในการซื้อขายก็ตาม

การเติบโตของกองทุนรวม

เมื่อพูดถึงขนาดของกองทุนรวม มันจะหมายถึงปริมาณรวมของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้อง ในทางกลับกัน เราสามารถพิจารณาจำนวนเงินทั้งหมดที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมด

แม้กองทุนเปิด (Open-ended fund) จะได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักลงทุนในปัจจุบัน แต่ก็มีสองวิธีพื้นฐานที่จะรับประกันการเติบโตที่อาจเกิดขึ้น:

1. โอกาสในการเติบโตอย่างแรกคือการพิจารณาจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของสินทรัพย์ที่รวมอยู่ในพอร์ต (หุ้น หลักทรัพย์ พันธบัตร ฯลฯ) หากราคาของสินทรัพย์เพิ่มขึ้น กองทุนก็มาพร้อมกับมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
2. โอกาสเติบโตทางที่สองมาจากแรงสนับสนุนของกระแสเงินสดไหลเข้า ยิ่งนักลงทุนมีเงินเข้ากองทุนมากเท่าไร กองทุนก็จะยิ่งแข็งแกร่งและมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านั้น พูดง่ายๆ ก็คือ พอร์ตโฟลิโออาจอ่อนแอและมีผลตอบแทนติดลบ อย่างไรก็ตาม ขนาดของสินทรัพย์สามารถเติบโตต่อไปได้ในขณะที่นักลงทุนเทเงินเข้ากองทุนรวม

ทั้งสองตัวเลือกจะมีความสอดคล้องกัน โดยหนทางหนึ่งอาจนำไปสู่อีกทางหนึ่ง กองทุนรวมที่มีพอร์ตการลงทุนที่ดีและแข็งแกร่งจะดึงดูดนักลงทุนรายใหม่ได้ดีกว่า

กองทุนรวมที่ใหญ่เกิดไปอาจลดคุณภาพลง

ยิ่งมีนักลงทุนเข้ามามากเท่าไหร่ ผู้จัดการกองทุนก็ยิ่งมีเงินสดมากขึ้นเท่านั้น สร้างแรงกดดันเพิ่มเติมที่อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานของกองทุน ความท้าทายหลักที่นี่คือการใช้เงินทั้งหมดในการทำงานให้เร็วที่สุด ในขณะเดียวกัน การเลือกสินทรัพย์ที่จะลงทุนต้องผ่านการวิเคราะห์และศึกษามาอย่างดี

พูดง่ายๆ ก็คือ มีความเสี่ยงในการเลือกสินทรัพย์ที่ไม่ถูกต้องหรือตราสารที่ไม่เหมาะสม ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมากในการหากองทุนรวมที่มีขนาดเหมาะสมเพื่อลงทุน ไม่มีสูตรสำเร็จหรือเครื่องคำนวณว่ากองทุนรวมจะต้องมีขนาดเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสมที่สุด อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขที่จะทำให้รู้ได้ว่ากองทุนอ้างอิงสามารถจับคู่ได้ดีหรือไม่

ขนาดกองทุนอาจไม่ใช่เรื่องสำคัญ

ขนาดของกองทุนไม่ใช่ปัญหาหลักหากสินทรัพย์หลักที่เกี่ยวข้องคือกองทุนตราสารหนี้และดัชนี ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งกองทุนใหญ่ยิ่งดีในโอกาสนี้ ขนาดใหญ่ช่วยลดโอกาสการลงทุนที่ผิดพลาดได้

แต่หากขนาดกองทุนเป็นเรื่องสำคัญล่ะ

ในบางครั้ง กองทุนรวมขนาดใหญ่อาจไม่เข้ากับรูปแบบการลงทุน ลองนึกภาพกองทุนขนาดเล็กที่มีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นจาก 100 ล้านดอลลาร์เป็น 1 พันล้านดอลลาร์ ผู้จัดการกองทุนจะไม่สามารถรักษากระแสเงินสดไหลเข้าจำนวนมหาศาลนี้ได้ ซึ่งหมายความว่าประสิทธิภาพของกองทุนจะไม่มีผลอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม กองทุนขนาดเล็กมีความเชี่ยวชาญในการจัดการสินทรัพย์ที่มีการซื้อขายน้อย (ส่วนใหญ่เป็นหุ้น) การลงเงินที่มากเกินไปอาจนำมาซึ่งปัญหาและความท้าทายเพิ่มเติมสำหรับผู้จัดการกองทุน อีกทั้งส่งผลให้การจัดการเงินและสินทรัพย์ไม่มีประสิทธิภาพ

วิธีจัดการความยุ่งยากในการกำหนดขนาดกองทุน

เมื่อกองทุนรวมเติบโตมากเกินไปและเริ่มลดทอนประสิทธิภาพของผู้จัดการในการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ มี 3 ทางเลือกหลักในการแก้ไขสถานการณ์:

• ใช้กลยุทธ์เดียวกันและปรับให้เข้ากับเงินทุนจำนวนมากขึ้น
• เปลี่ยนรูปแบบและกลยุทธ์การลงทุน
• ให้กองทุนรวมปิดรับผู้ลงทุนรายใหม่

วิธีหาขนาดกองทุนที่เหมาะสม?

ในการหากองทุนที่ตรงกับความคาดหวังของท่าน สามารถใช้เคล็ดลับต่อไปนี้ที่จะช่วยให้ท่านทราบได้ว่าขนาดกองทุนช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมเพื่อประโยชน์ของนักลงทุนหรือเป็นอุปสรรค:

• คำนึงถึงขนาดกองทุนที่สัมพันธ์กับแนวทางการลงทุน ตามที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ กองทุนขนาดเล็กไม่ควรใหญ่เกินไป ในขณะที่กองทุนตราสารหนี้และดัชนีจะไม่มีปัญหากับการมีขนาดใหญ่เกินไป
• อย่าลงทุนในกองทุนที่มีสินทรัพย์หดตัว โดย "สินทรัพย์ที่หดตัว" หมายถึงเครื่องมือที่มีผลตอบแทนติดลบ กล่าวง่ายๆ ก็คือ กองทุนกำลังสูญเสียเงินหรือผลประกอบการไม่ดี
• ระวังกองทุนรวมที่มีการถือครองเงินสดเป็นจำนวนมาก โดยทั่วไป กองทุนจะต้องเก็บเงินสดไว้จำนวนเล็กน้อยไว้เป็นทุนสำรอง อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเกิน 15% มิฉะนั้นจะเป็นสัญญาณของผู้จัดการกองทุนที่มีปัญหาในการรักษากระแสเงินสด

สรุปเกี่ยวกับขนาดกองทุนรวม

กองทุนรวมมีแนวโน้มที่จะเติบโตเมื่อเวลาผ่านไป บางครั้งก็นำไปสู่การผลการดำเนินการที่ต่ำกว่ามาตรฐานหรือการลงทุนที่ผิดพลาด ดังนั้นผู้ลงทุนควรเลือกกองทุนรวมที่ดีที่สุดเพื่อการลงทุนอย่างละเอียด พวกเขาต้องพิจารณาถึงปริมาณเงินสดที่จองไว้ รูปแบบการซื้อขายและแนวทางการซื้อขาย ตลอดจนการเลือกสินทรัพย์เป้าหมาย

บทความนี้ไม่มีและไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีคำแนะนำหรือคำปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงข้อเสนอหรือการชักชวนในการทำธุรกรรมใดๆ ในตราสารทางการเงิน ทั้งนี้ นักลงทุนควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน