ออกจากระบบ
คุณจะแน่ใจหรือไม่ที่จะออกจากระบบ
MTrading Team • 2024-09-23

EURUSD ตั้งเป้าทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบปี ก่อนการรายงานข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญ

EURUSD ตั้งเป้าทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบปี ก่อนการรายงานข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญ

ภาพรวมตลาด

เช้าวันจันทร์ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดโดยรวมมีทิศทางเป็นบวก เนื่องจากนักเทรดแสดงการสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการประกาศของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณชั่วคราวเพื่อป้องกันการชัตดาวน์ไปจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม ความสนใจในขณะนี้มุ่งไปที่การรายงานตัวเลขดัชนี PMI เบื้องต้นประจำเดือนกันยายน การประชุมการกำหนดนโยบายการเงินจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) รวมถึงแถลงการณ์จากประธาน FOMC Jerome Powell และมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานของสหรัฐฯ (Core PCE Price Index)

ในอีกทางหนึ่ง สภาวะการพร้อมรับความเสี่ยงได้สร้างแรงกดดันด้านลบต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯท่ามกลางธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)ที่ มีแนวโน้มดำเนินการผ่อนคลายนโยบายการเงิน แต่ความวิตกกังวลก่อนการรายงานข้อมูล/เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจยังทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ยังคงเผชิญความยากลำบากอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2023 หลังจากอยู่ในแนวโน้มขาลงติดต่อกันสามสัปดาห์

แรงเทซื้อ EURUSD และ GBPUSD ยังคงควบคุมทิศทางตลาด

คู่เงิน EURUSD ยังคงแข็งแกร่งหลังจากปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบสี่สัปดาห์ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนตัวลงและท่าทีสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) การปรับปรุงตัวเลขข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยูโรโซนสำหรับเดือนกันยายน และการคัดค้านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยิ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งของคู่สกุลเงินนี้ อย่างไรก็ตาม ความระมัดระวังเกี่ยวกับการเลือกตั้งในเยอรมนียังทดสอบช่วงแนวโน้มขาขึ้นของยูโรในช่วงนี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักร Rachel Reeves ได้ลดการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นภาษีและมาตรการรัดเข็มขัดของตลาดลง ซึ่งส่งผลให้เสถียรภาพของคู่เงิน GBPUSD ที่ระดับสูงสุดในรอบ 31 เดือนถูกท้าทาย โดยสถานการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากการรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกในสหราชอาณาจักรที่มีทิศทางในเชิงบวกและการคงการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) นอกจากนี้ยังมีความคิดเห็นเชิงสนับสนุนนโยบายการเงินที่เข้มงวดจาก Catherine Mann ผู้กำหนดนโยบายของ BoE ซึ่งยังคงสนับสนุนความเชื่อมั่นของนักเทรดฝั่งซื้อเงินปอนด์ ก่อนการประกาศตัวเลขดัชนี PMI ที่สำคัญในสัปดาห์นี้

USDJPY กำลังเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มตลาด

คู่เงิน USDJPY ได้ยุติแนวโน้มขาลงที่ดำเนินมาติดต่อกันเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และเริ่มปรับตัวสูงขึ้นในเช้าวันจันทร์ แม้ดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนค่าลงก็ตาม โดยแถลงการณ์จากผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) Kazuo Ueda และ currency diplomat ของญี่ปุ่น Atsushi Mimura ไม่สามารถสร้างความประทับใจต่อความคาดหวังเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางญี่ปุ่นในตลาดได้ นอกจากนี้ วันหยุดในญี่ปุ่นยังทำให้กิจกรรมในตลาดเอเชียถูกจำกัด ซึ่งเป็นผลให้เงินเยนสามารถฟื้นตัวต่อเนื่องจากระดับต่ำสุดของปีในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

Antipodeans และสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มขาขึ้น

นักเทรดมีแนวโน้มทำการซื้อขายสกุลเงินกลุ่ม Antipodean และสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากความเชื่อมั่นจากสภาวะการพร้อมรับความเสี่ยงของตลาด โดยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจล่าสุด เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ย reverse repo 14 วันของธนาคารกลางจีน (PBoC) มุมมองทางเศรษฐกิจเชิงบวกของผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ Kamala Harris และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบมีเป้าหมายเฉพาะกลุ่มของจีน ยังได้ช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น อย่างเช่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ดอลลาร์แคนาดา รวมไปถึงสินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น และสกุลเงินดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายทางเศรษฐกิจในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กำลังทดสอบความแข็งแกร่งของแรงเทซื้อคู่เงิน AUDUSD และคู่เงิน NZDUSD ด้วยเช่นกัน ในขณะที่ คู่เงิน USDCAD กำลังประสบปัญหาในการใช้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากธนาคารกลางแคนาดา (BoC)

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความเชื่อมั่นเชิงบวกเกี่ยวกับจีน และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนตัวลง อย่างไรก็ดี ความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านอุปสงค์และอุปทานของ OPEC+ กำลังทดสอบแรงเทซื้อของกลุ่มพลังงานเช่นเดียวกัน

ในอีกทางหนึ่งทองคำกำลังดำเนินไปได้สวยท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกและการดำเนินนโยบายการเงินของเหล่าธนาคารกลางชั้นนำ ซึ่งราคาทองคำได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงและการทะลุแนวต้านทางเทคนิคล่าสุด

เงื่อนไขการเทรดที่ดีที่สุด
รับโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 200% รับโบนัสเงินฝากสูงสุดถึง 200%
Spread 
เริ่มต้นที่ 0 pip Spread 
เริ่มต้นที่ 0 pip
แพลตฟอร์ม Copy
Trade ระดับโลก แพลตฟอร์ม Copy 
Trade ระดับโลก
เข้าร่วมเลย

ความกังวลที่ผ่อนคลายลงเกี่ยวกับชัยชนะของพรรคเดโมแครตช่วยหนุนสกุลเงินดิจิทัล

ด้วยความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับชัยชนะของพรรคเดโมแครตและผลกระทบต่อตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ยังเป็นผลให้สกุลเงินดิจิทัลกลับมาได้รับความสนใจและความเชื่อมั่นอีกครั้ง นอกจากนี้ ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต Kamala Harris ได้แสดงการสนับสนุนการส่งเสริมการซื้อขายคริปโท โดยปัจจัยนี้ยิ่งช่วยหนุนตลาดสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นไปอีก อีกทั้ง ข้อมูล on-chain ที่มีทิศทางเชิงบวกและการไหลเข้าของเงินทุนกองทุน ETF ยังได้หนุนแนวโน้มขาขึ้นของ Bitcoin (BTCUSD) และ Ethereum (ETHUSD) ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกด้วย ทำให้สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำเหล่านี้ยังคงแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

มาติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของสินทรัพย์เหล่านี้:

  • น้ำมันดิบ WTI ยังคงมีราคาเสนอซื้อเป็นบวกเล็กน้อยที่ประมาณ $71.50 หลังจากช่วงขาขึ้นสองสัปดาห์ และพุ่งสูงขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน
  • ทองคำ (Gold) ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ประมาณ $2,630 ระหว่างการปรับตัวขึ้นของระดับราคาสามวันติดต่อกัน
  • ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD INDEX) ขาดโมเมนตัมที่ประมาณ 100.80 หลังจากปรับลดลงสามสัปดาห์ติดต่อกัน
  • ตลาดหลักทรัพย์ Wall Street ปิดผสม แต่ตลาดหุ้นในโซนเอเชียแปซิฟิก กลับปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ หุ้นในยุโรปและสหราชอาณาจักร ยังขาดทิศทางที่ชัดเจนในภายหลัง
  • BTCUSD และ ETHUSD ยังคงมีการซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบเดือน โดยปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยที่ประมาณ $63,700 และ $2,660 ตามลำดับ

สัปดาห์ที่วุ่นวายก่อนหน้า

เมื่อเดือนกันยายนใกล้จะสิ้นสุดลง ในสัปดาห์สุดท้ายก็มีการรายงานข้อมูลและเหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจมากมายสำหรับนักเทรดที่อาศัยโมเมนตัมในการเทรด ไฮไลต์สำคัญยังรวมถึงแถลงการณ์ของ Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานของสหรัฐฯ (US Core PCE Price Index) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญในวันศุกร์ นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยตัวเลขดัชนี PMI ประจำเดือนกันยายนครั้งแรก และการประชุมกำหนดนโยบายการเงินจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดอีกด้วย

ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าจะมีการปรับลดอีกสองครั้งในปี 2024 ช่วงแนวโน้มขาลงของดอลลาร์สหรัฐฯจึงจำเป็นต้องมีปัจจัยในการปรับตัวลงที่ชัดเจน โดยตัวเลขดัชนี PMI แถลงการณ์ของประธาน Fed Jerome Powell และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE Price Index) ที่แข็งแกร่ง จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวขึ้นจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผสมผสานกันเนื่องจากแรงกดดันในการซื้อขายช่วงสิ้นเดือนและสิ้นไตรมาสนั้นไม่ควรมองข้าม

โมเมนตัมขาขึ้นคู่เงิน EURUSD อาจเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากการเลือกตั้งในเยอรมนีและข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานในหลากหลายทิศทาง ในขณะที่ คู่เงิน GBPUSD อาจทำสถิติสูงสุดใหม่ของปี โดยเป็นผลมาจากการอ่อนค่าลงของดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนทางด้าน คู่เงิน USDJPY อาจยังคงปรับตัวขึ้นต่อไป เนื่องจากการพัฒนาในญี่ปุ่นที่ท้าทายจุดยืนของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่เน้นนโยบายการเงินที่เข้มงวด นอกจากนี้ คู่เงิน AUDUSD,คู่เงิน NZDUSD และคู่เงิน USDCAD อาจจะชะลอตัวจากการพุ่งสูงขึ้นล่าสุด เว้นแต่ว่าดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนค่าลงอีก ขณะที่ราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำอาจประสบกับการดึงกลับของระดับราคา

การคาดการณ์สำหรับสินทรัพย์หลัก

  • คาดว่าจะฟื้นตัว: USDCAD, USDJPY, US Dollar, Silver
  • มีแนวโน้มปรับลดลงต่อไป: AUDUSD, NZDUSD, GBPUSD
  • คาดว่าจะเคลื่อนไหวในโหมด Sideways: BTCUSD, ETHUSD, Nasdaq, Gold, DJI30, USDCNH
  • คาดว่าจะค่อยๆปรับลดลงและปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง: DAX, FTSE 100, EURUSD, Crude Oil

ขอให้คุณโชคดีในการเทรด!